หน้าที่ของสายพานไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรชนิดไหนล้วนนำสายพานมาใช้งานแทบทั้งสิ้น เนื่องจากสายพานทำหน้าที่ส่งกำลังจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างดีและไม่เสียพลังงานระหว่างทางมากนักสายพานมีหลายชนิดแต่ละชนิดก็เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับสายพานหน้าเครื่องยนต์นั้นมักนิยมใช้สายพานแบบลิ่มเนื่องจากมีลักษณะแบนทำจากวัสดุเส้นใย ธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ ห่อหุ้มด้วยยางผ่านกรรมวิธีทางเคมีจึงมีความเหนียวมีความทนทานเป็นอย่างมากสายพานมีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีทั้งแบบร่องเดียวและหลายร่องโดยมีตัวเลขบอกขนาดต่างๆ เช่น 5PK890 หมายถึง แบบ 5 ร่อง ยาว 890 มม. หรือ 9.5×975 หมายถึง แบบร่องเดียว ขนาดร่องหนา 9.5 มม. ยาว 975 มม. เป็นต้น
รถสมัยก่อนมักมีสายพานหน้าเครื่องหลายเส้นระหว่างการใช้งานต้องหมั่นปรับตั้งความตึงกันบ่อยๆ แถมยังมีอายุของการใช้งานที่ไม่นานนักด้วย แต่สมัยนี้สายพานหน้าเครื่องมีเพียง 1-2 เส้นเท่านั้น สายพานแบบนี้เรียกว่าเซอร์เพนไทน์สายพานนี้ถูกออกแบบให้ใช้ขับเคลื่อนทุกอย่างได้ในเส้นเดียวไม่ว่าจะเป็น ไดชาร์จ, คอมพเรสเซอร์แอร์ ปั๊มเพาเวอร์ ฯลฯ ทำให้ทำงาน ได้ราบเรียบไม่ซับซ้อนและยังมีลูกรอกที่สามารถปรับตั้งสายพานได้อัตโนมัติโดยลูกรอกนี้จะปรับให้ สายพานอยู่ในสภาวะที่ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไปตลอดการใช้งานซึ่งสภาพการทำงานดังกล่าวนี้ทำให้สายพานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนได้อีกด้วย
การดูแลสายพานหน้าเครื่องนั้นง่ายมากเนื่องจากสายพานอยู่ในตำแหน่งมองเห็นได้ง่ายถ้าได้ยินเสียงดังจากสายพานอันดับแรกควรเชคระยะตึงของสายพานก่อน โดยต้องมีความตึงพอประมาณไม่ตึงมากจนเกินไปเพราะถ้าตึงเกินไปก็กินกำลังเครื่อง เกินจำเป็นแต่ถ้าหย่อนเกินไปก็ส่งถ่ายกำลังไม่เต็มที่ แถมยังทำให้เกิดเสียงได้จากการเสียดสีกันระหว่างสายพานกับพูลเลย์ได้อีกด้วย ในบางครั้งเมื่อมีการโหลดของเครื่องยนต์มากๆ เช่น หมุนพวงมาลัยสุดก็จะทำให้เกิดเสียงได้ ดังนั้นการตั้งสายพานให้อยู่ในระยะที่พอดีเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสายพานหน้าเครื่องโดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 50,000 กม. หรือประมาณ 2-3 ปี สายพานที่ดีต้องไม่มีรอยแตกลายงาที่เนื้อยางดังนั้นถ้าตรวจพบสายพานแตกเป็นบั้งๆ แล้วละก็เปลี่ยนใหม่ได้เลย